สำหรับเส้นทางเดินชมถ้ำมีหลายทางดังต่อไปนี้
- เส้นทางแรก คือ ถ้ำพระนอน เส้นทางนี้ยาว 360 ม.
- เส้นทางที่ 2 คือ ถ้ำแก้ว ถ้ำน้ำ ยาว 734 ม.
- เส้นทางที่ 3 คือ ถ้ำมืด ถ้ำม้า ยาว 735 ม.
สองเส้นทางหลังนี้ไม่มีไฟฟ้า ถ้าต้องการเดินชมจะมีคนนำทางและตะเกียงให้ ภายในแต่ละถ้ำ ต่างมีความงามจากการเสกสรรปั้น แต่งของธรรมชาติ ชวนให้ตื่นตาตื่นใจกับปรากฏการณ์ของหินงอกหินย้อยที่ก่อให้เกิดรูปร่างต่างๆ มีชื่อเรียกตามลักษณะรูปทรง เช่น หินโคมไฟเทวดา หินดอกบัวบาน หินมือยักษ์ หินดอกบัวพันชั้น โดยเฉพาะภายในถ้ำแก้ว เมื่อยามกระทบแสงสว่างนั้นดูงดงาม ตระการตา เพราะจะเห็นเป็นแสงระยิบระยับคล้ายประกายของเพชรเลยทีเดียว
- เส้นทางแรก คือ ถ้ำพระนอน เส้นทางนี้ยาว 360 ม.
- เส้นทางที่ 2 คือ ถ้ำแก้ว ถ้ำน้ำ ยาว 734 ม.
- เส้นทางที่ 3 คือ ถ้ำมืด ถ้ำม้า ยาว 735 ม.
สองเส้นทางหลังนี้ไม่มีไฟฟ้า ถ้าต้องการเดินชมจะมีคนนำทางและตะเกียงให้ ภายในแต่ละถ้ำ ต่างมีความงามจากการเสกสรรปั้น แต่งของธรรมชาติ ชวนให้ตื่นตาตื่นใจกับปรากฏการณ์ของหินงอกหินย้อยที่ก่อให้เกิดรูปร่างต่างๆ มีชื่อเรียกตามลักษณะรูปทรง เช่น หินโคมไฟเทวดา หินดอกบัวบาน หินมือยักษ์ หินดอกบัวพันชั้น โดยเฉพาะภายในถ้ำแก้ว เมื่อยามกระทบแสงสว่างนั้นดูงดงาม ตระการตา เพราะจะเห็นเป็นแสงระยิบระยับคล้ายประกายของเพชรเลยทีเดียว
ตำนานความศักดิ์สิทธิ์ของถ้ำเชียงดาว
ถ้ำหลวงเชียงดาวเป็นโบราณสถานที่ผู้คนมากมายเลื่อมใสศรัทธา ซึ่งอาจเป็นเพราะได้รู้เรื่องราวอัศจรรย์แต่ในหน หลังที่เล่าสืบ ต่อกันมา นั่นก็คือเจ้าหลวงคำแดง เป็นบุตรชายของเจ้าผู้ครองเมืองพะเยา ได้ทิ้งบ้านเมืองเพื่อออกตามหาหญิงสาวที่แปลงร่าง เป็นกวางทอง เพราะหลงรูปโฉมที่สวยงาม ซึ่งหายลับเข้าไปในถ้ำหลวงเชียงดาว เจ้าหลวงคำแดงจึงได้ตามเข้าไปในถ้ำเช่นเดียวกัน โดยไม่ได้กลับออกมาอีกเลย หากแต่ไม่จุติใหม่เป็นเทวดาผู้มีฤทธิ์อยู่ในภายถ้ำ และปกปักรักษาถ้ำหลวงเชียงดาว ต่อมาชาวบ้านได้ สร้างศาลถวายท่านและตั้งชื่อว่า“ศาลพ่อหลวงคำแดง”ตามตำนานกล่าวไว้ว่า ในคืนที่มีนิมิตหมายอันดี อีกทั้งบนท้องฟ้าก็ ไร้เมฆ หมอก จะปรากฏลูกกลมๆ มีแสงสว่างคล้ายพระธาตุลอยออกมาจากหลังดอยเชียงดาวแล้ว เคลื่อนไปทางทิศตะวันออก เป็นเวลา 5 นาที ก็จะได้ยินเสียงดังคล้ายเสียงของปืนใหญ่พร้อมกับแสงสว่างนั้นก็หายไปด้วย ชาวบ้านมักจะเชื่อกันว่า เป็นวิญญาณของ เจ้าหลวงคำแดง ไปเยี่ยมบ้านเกิดเมืองนอนที่เมืองพะเยา
นอกจากนี้ยังมีตำนานเรื่องเล่ากันต่อๆ มาอีกว่ามีฤาษี ชื่อว่า “พรหมฤาษี”เป็นผู้วิเศษด้วยฌานอันแก่กล้า ได้เรียกประชุมเทวดา อินทร์ พรหม ยักษ์ อสูร นาคราช เป็นต้น เพื่อมาเนรมิตสิ่งวิเศษต่างๆ เช่น พระพุทธรูปทองคำ ต้นโพธิ์ทองคำ ช้างวิเศษหรือ ช้างเอราวัณ ดาบวิเศษหรือดาบศรีกัญชัย อาหารทิพย์ ม้าวิเศษ เป็นต้น สิ่งต่างๆ เหล่านี้ถูกเก็บไว้ที่ส่วนลึกภายในถ้ำและได้รับ การดูแลรักษาเป็นอย่างดีจากเทวดาผู้มีฤทธิ์ชื่อว่า “เจ้าหลวงคำแดง” ครั้งหนึ่งมีชาวบ้าน 2 คนได้เข้าไปในถ้ำเพื่อ ค้นหาของวิเศษ และต้องการนำออกมาจากถ้ำด้วย แต่แล้วก็มีอันเป็นไป คือทั้ง 2 คนหาทางออกมาจากถ้ำไม่ได้ แม้ญาติพี่น้องจะเข้าไปตามหาก็ ไม่พบ ภายหลังมีชาวบ้านเข้าไปพบโดยบังเอิญ ปรากฏว่าคนหนึ่งเสียชีวิตไปแล้ว ส่วนอีกคนหนึ่งยังมีชีวิตอยู่ จึงนำมารักษาตัวที่บ้าน แต่เพียงไม่ถึงอาทิตย์ก็เสียชีวิตหลังจากนั้นก็มีเรื่องราวของคนที่เข้าไปในถ้ำแล้วหลงทางกลับออกมาไม่ได้ จนต้องเสียชีวิตอยู่ในถ้ำ เพราะ มีจิตอกุศลคิดอยากได้ของวิเศษนั้นมาเป็นสมบัติส่วนตัว ดังนั้นเรื่องราวในตำนานจึงกลายเป็นความเชื่อ ความศรัทธาในความ ศักดิ์สิทธิ์ของถ้ำหลวงเชียงดาวตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
สำหรับเกร็ดความเชื่อความศรัทธาเกี่ยวกับถ้ำหลวงเชียงดาวยังมีอีกหลายเรื่อง เช่น พระพุทธรูปหินอ่อนที่อยู่คู่ถ้ำหลวงเชียงดาว มาเนิ่นนาน ได้มีคนขโมยไปแต่ก็เกิดเหตุร้ายเกือบถึงแก่ชีวิต จนต้องนำกลับไปคืนดังเดิม อีกเรื่องหนึ่งคือ “พระพุทธรูปทันใจ”ที่ อยู่ใน วัดถ้ำเชียงดาวซึ่งเชื่อกันว่าหากได้อธิษฐานขอพรแล้วจะสมหวังดังปรารถนาอย่างรวดเร็วทันใจ ดังเช่นชื่อของ พระพุทธรูป องค์นี้
นอกจากนี้ยังมีตำนานเรื่องเล่ากันต่อๆ มาอีกว่ามีฤาษี ชื่อว่า “พรหมฤาษี”เป็นผู้วิเศษด้วยฌานอันแก่กล้า ได้เรียกประชุมเทวดา อินทร์ พรหม ยักษ์ อสูร นาคราช เป็นต้น เพื่อมาเนรมิตสิ่งวิเศษต่างๆ เช่น พระพุทธรูปทองคำ ต้นโพธิ์ทองคำ ช้างวิเศษหรือ ช้างเอราวัณ ดาบวิเศษหรือดาบศรีกัญชัย อาหารทิพย์ ม้าวิเศษ เป็นต้น สิ่งต่างๆ เหล่านี้ถูกเก็บไว้ที่ส่วนลึกภายในถ้ำและได้รับ การดูแลรักษาเป็นอย่างดีจากเทวดาผู้มีฤทธิ์ชื่อว่า “เจ้าหลวงคำแดง” ครั้งหนึ่งมีชาวบ้าน 2 คนได้เข้าไปในถ้ำเพื่อ ค้นหาของวิเศษ และต้องการนำออกมาจากถ้ำด้วย แต่แล้วก็มีอันเป็นไป คือทั้ง 2 คนหาทางออกมาจากถ้ำไม่ได้ แม้ญาติพี่น้องจะเข้าไปตามหาก็ ไม่พบ ภายหลังมีชาวบ้านเข้าไปพบโดยบังเอิญ ปรากฏว่าคนหนึ่งเสียชีวิตไปแล้ว ส่วนอีกคนหนึ่งยังมีชีวิตอยู่ จึงนำมารักษาตัวที่บ้าน แต่เพียงไม่ถึงอาทิตย์ก็เสียชีวิตหลังจากนั้นก็มีเรื่องราวของคนที่เข้าไปในถ้ำแล้วหลงทางกลับออกมาไม่ได้ จนต้องเสียชีวิตอยู่ในถ้ำ เพราะ มีจิตอกุศลคิดอยากได้ของวิเศษนั้นมาเป็นสมบัติส่วนตัว ดังนั้นเรื่องราวในตำนานจึงกลายเป็นความเชื่อ ความศรัทธาในความ ศักดิ์สิทธิ์ของถ้ำหลวงเชียงดาวตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
สำหรับเกร็ดความเชื่อความศรัทธาเกี่ยวกับถ้ำหลวงเชียงดาวยังมีอีกหลายเรื่อง เช่น พระพุทธรูปหินอ่อนที่อยู่คู่ถ้ำหลวงเชียงดาว มาเนิ่นนาน ได้มีคนขโมยไปแต่ก็เกิดเหตุร้ายเกือบถึงแก่ชีวิต จนต้องนำกลับไปคืนดังเดิม อีกเรื่องหนึ่งคือ “พระพุทธรูปทันใจ”ที่ อยู่ใน วัดถ้ำเชียงดาวซึ่งเชื่อกันว่าหากได้อธิษฐานขอพรแล้วจะสมหวังดังปรารถนาอย่างรวดเร็วทันใจ ดังเช่นชื่อของ พระพุทธรูป องค์นี้
การเดินทางไปถ้ำเชียงดาว
1. โดยรถยนต์ส่วนตัว
ถ้ำเชียงดาวจะอยู่ในเขตอําเภอเชียงดาว ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ประมาณ 77 กิโลเมตร การเดินทางจากเชียงใหม่ไป ยังอําเภอ ชียงดาวระยะทาง 72 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าไปจนถึงถ้ำอีก 5 กิโลเมตร ถนนเป็นถนนราดยางอย่างดี จนถึงบริเวณถ้ำเชียงดาว เมื่อไปถึงหน้าถ้ำจะเห็นบริเวณกว้างขวางสําหรับจอดรถ มีศาลานั่งพักหลังใหญ่
2.โดยรถสาธารณะ
จากกรงุเทพ นั่งรถสายกรุงเทพ-เชียงดาว (ท่าตอน) ไปลงอำเภอเชียงดาว จากนั้นนั่งรถโดยสารต่อไปยังถ้ำเชียงดาว
2.โดยรถสาธารณะ
จากกรงุเทพ นั่งรถสายกรุงเทพ-เชียงดาว (ท่าตอน) ไปลงอำเภอเชียงดาว จากนั้นนั่งรถโดยสารต่อไปยังถ้ำเชียงดาว
ข้อมูลจาก http://www.paiduaykan.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น