เส้น ทางที่เราใช้เพื่อขึ้นไปยังขุนช่างเคี่ยนนั้น อยู่บนถนนเส้นเดียวกับทางขึ้นพระธาตุดอยสุเทพ พระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ และเลยหมู่บ้านม้งดอยปุยขึ้นไปหน่อย... สกู๊ปนี้ เราก็เลยจะจัดสถานที่ท่องเที่ยว 4 ที่นี้ไว้เที่ยวได้ในวันเดียว
แต่ตอนนี้ขอขึ้นไปชมดอกไม้ชมพูในยามเช้าๆ บน "ขุนช่างเคี่ยน" เสียก่อนเป็นอันดับแรก เเล้วค่อยเที่ยวไล่ย้อนลงมาเเล้วกันจ้า
นัก
ท่องเที่ยวที่จะขึ้นเขามาเที่ยวขุนช่างเคี่ยน
ควรนั่งรถที่มีสมรรถภาพสูงสักหน่อย
เพราะว่าถนนหนทางจากหมู่บ้านม้งดอยปุนไปจนถึงขุนช่างเคี่ยน เป็นทางลาดชัน
ผิวทางค่อนข้างชำรุด เเถมยังเป็นเลนเดียวซะด้วย
ต้องใช้ความระมัดระวังในการขับรถ
และที่สำคัญอย่าลืมเตรียมเสื้อสีสันสวยๆ สู้ดอกไม้สีชมพูสวยสดด้วยนะ
สำหรับ
ผู้ที่อยากจะหาที่นอนพักใกล้ชิดดอกซากุระ
ให้ลองติดต่อสอบถามสถานีวิจัยและศูนย์ฝึกอบรมเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน
เพราะจะมีห้องพักให้บริการแก่นักท่องเที่ยว แต่ที่พักมีจำนวนจำกัด
ควรโทรสำรองไว้เนิ่นๆ ที่เบอร์ 053-944053 หรือ 053-222014
หรือ
ถ้าใครอยากนอนเต๊นท์รับวิวสวยๆ บนยอดดอยปุยก็มีนะ บริเวณยอดดอยปุย
เลยพระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ขึ้นไป 4-5 กิโลเมตร
ก่อนถึงขุนช่างเคี่ยนจะมีจุดกางเต๊นท์ของอุทยานแห่งชาติไว้คอยบริการนักท่อง
เที่ยว ในยามค่ำคืน คุณจะได้ชมดาวบนดิน
เพราะจุดนี้จะมองเห็นวิวและแสงไฟจากตัวเมืองเชียงใหม่ได้เป็นอย่างดีเลยล่ะ
สามารถจองพื้นที่กางเต๊นท์ ในรูปแบบออนไลน์ล่วงหน้าได้ที่ http://www.dnp.go.th/parkreserve/
หรือ สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดต่าง ๆ ได้ที่
อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ถนนห้วยแก้ว ต.สุเทพ อ. เมืองเชียงใหม่
จ.เชียงใหม่ 50200 โทรศัพท์ 0 5321 0244 โทรสาร 0 5321 2065
ลงมาจากขุนช่างเคี่ยนเเล้ว ทีนี้เราก็มาชมหมู่บ้านม้งดอยปุยกันบ้าง แต่ก่อนอื่นเลย
เราจะผ่าน "จุดชมวิวดอยปุย" ขอบอกว่าที่นี่วิวสวยมาก เห็นตัวเมืองเชียงใหม่ด้านล่างด้วย
ตัว
จุดชมวิวดอยปุยนี้ เป็นสถานที่เล็กๆ
ภายในบริเวณก็จะมีร้านขายของของชาวเขาให้ได้เลือกจับจ่ายกันตามสะดวก
มีตั้งแต่ชา กาแฟ, เสื้อผ้า, กระเป๋า, ของฝาก แต่ที่มาสะดุดอยู่ที่ชื่อ คือ
“ข้าวลืมผัว” เป็นข้าวไร่ที่ปลูกในเขตพื้นที่สูง
เม็ดข้าวจะเป็นสีดำมีคุณค่าทางโภชนาการเพียบ
ใครที่ผ่านแถวนั้นก็อย่าลืมซื้อติดไม้ติดมือกลับมาลองทานกันดูนะ
ขับรถต่อลงมาถึงสามแยกแล้วย้อนขึ้นอีกทาง เราจะไปชมชาว ม้ง..ม้ง... ที่ "หมู่บ้านม้งดอยปุย"
ทางที่มาค่อนข้างลำบากนิดหน่อยแต่ก็มีรถแดงเข้าไปเหมือนเราเข้าป่า
ทางที่เข้ามาจะเป็นถนนแคบ ๆ รถสวนกันลำบาก เป็นดินแดง
และเมื่อพ้นป่าออกมาก็เจอชุมชนชาวเขา
ที่
นี่จะมีของที่ชาวเขานำมาขายกันมากมาย ส่วนใหญ่จะเป็นของฝาก ของกิน
พอเดินขึ้นไปถึงด้านบน ถ้าใครจะเข้าไปชมสวนดอกไม้ น้ำตก จะมีเก็บค่าผ่านทาง
20 บาทต่อคน ภายในมีมุมถ่ายรูปเพียบ งต้นกัญชา
ต้นฝิ่นที่ออกดอกหลายสีสวยงาม และไม้ประดับนานาชนิด มุมน้ำตก
แล้วถ้าใครอยากแปลงร่างไปเป็นชาวเขาเขาก็มีบริการเช่าชุดไว้ให้นักท่องเที่ยวอีกด้วยนะ
ย้อนกลับลงมา เราจะเข้าไปเที่ยวชม "พระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์"
พระ
ตำหนักแห่งนี้
ใช้เป็นที่ประทับในโอกาสที่เสด็จพระราชดำเนินแปรพระราชฐานมาประทับแรม
ที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อทรงงาน และเยี่ยมเยียนราษฎรในเขตภาคเหนือ
พื้นที่
ภายในแบ่งออกเป็นหลายๆ พระตำหนัก เช่น พระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์
เรือนปีกไม้ เรือนรับรองและสวนกุหลาบ
พระตำหนักสิริส่องภูพิงค์และวิวอ่างเก็บน้ำ ลานน้ำพุวิวพาโนราม่า
พลับพลาผาหมอนและสวนเฟิร์น พระตำหนักพฤกษาวิสุทธิคุณ ฯลฯ
ภาย
ในต่างประดับประดาไปด้วยดอกไม้เมืองหนาวสวยงาม
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกุหลาบหลากหลายพันธุ์ที่สวยสดงดงามและมีขนาดใหญ่มากๆ
การเดินเที่ยวชมด้านในอาจจะใช้เวลานานหน่อยสักราวๆ 1 ชั่วโมง
แต่รับรองความสวยงามจับใจแน่นอน
พระ
ตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์เปิดให้ประชาชนเข้าชม เวลา 8:30-16:30 น.
ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ
ยกเว้นเมื่อมีการเสด็จพระราชดำเนินแปรพระราชฐานมาประทับแรมในช่วงเดือน
มกราคม-มีนาคม
(ขอบคุณภาพพระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ จาก http://www.bhubingpalace.org)
ลงจากพระตำหนักภูพิงค์แล้ว สถานที่สุดท้ายของเราคือ "วัดพระธาตุดอยสุเทพวรวิหาร"
วัดที่เรียกได้ว่าเป็นวัดสำคัญวัดหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่ และใครที่ไม่ได้มาสักการะถือว่ามาไม่ถึงเชียงใหม่อย่างแท้จริง
วัด
พระธาตุดอยสุเทพวรวิหาร เป็นวัดเก่าแก่คู่เมืองเชียงใหม่
เจดีย์ของวัดเป็นทรงเชียงแสน ปิดด้วยทองทั้งองค์
บริเวณรอบองค์เจดีย์ยังเป็นจุดชมวิวตัวเมืองเชียงใหม่อีกด้วย
เส้น
ทางขุนช่างเคี่ยน-ดอยปุย-พระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์-พระธาตุดอยสุเทพนั้น
ความจริงเเล้วยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆอีกมากมาย เช่น อ่าง
เก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า น้ำตกศรีสังวาลย์ น้ำตกมณฑาธาร น้ำตกห้วยแก้ว
อนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย วังบัวบาน ผาเงิบ รวมไปถึงสวนสัตว์เชียงใหม่ที่อยู่เชิงดอยสุเทพ
การ
เดินทาง ถ้าเริ่มจากตัวเมืองเชียงใหม่ ตรงบริเวณคูเมืองเชียงใหม่
ให้เดินทางขึ้นไปตามทาง ถนนสายห้วยแก้วตรงไปผ่านสี่แยกไฟแดงไปประมาณ 3 จุด
ผ่านหน้ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ไป จากนั้นก็ตรงขึ้นดอยไป
จะผ่านสถานที่น่าสนใจหลายจุดจนไปถึงยอดดอยปุยกันเลย
ถ้า
ไม่ถนัดหรือไม่ชำนาญทางในการขับรถขึ้นเขาเอง ก็สามารถใช้รถโดยสารประจำทาง
ซึ่งจะมีจุดจอดรถตั้งแต่ทางขึ้นดอย หน้าวัดพระธาตุดอยสุเทพ
และตรงพระตำหนักภูพิงค์ ราคาแล้วแต่ระยะทาง จำนวนสถานทีที่เราจะไป
และจำนวนผู้โดยสาร โดยเฉลี่ยถ้าไปเที่ยวให้ครบก็ตกราคาคนละ 100-200 บาท
บวกลบมากหรือน้อยแล้วแต่ตกลงกับคนขับจ้า
หนาวนี้... ให้เส้นทางท่องเที่ยว "ขุนช่างเคี่ยน-ดอยปุย-พระตำหนักภูพิงค์-ดอยสุเทพ"
จ.เชียงใหม่ เป็นหนึ่งในทางเลือกของคุณ... รับรองครบรส ทั้งชมพญาเสือโคร่ง
ดูดอยสวย วิถีชีวิตชาวเขา พระตำหนักฤดูหนาว ดอกไม้หลากหลายชนิด
และสักการะพระธาตุคู่บ้านคู่เมืองเชียงใหม่
ขอบคุณ ข้อมูลดีๆจากhttp://www.chillpainai.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น